รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่ โครงการลดปัญหารถติดในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่เดินทางโดยรถยนต์ โครงการนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังพัฒนาศักยภาพระบบขนส่งมวลชนให้มีโครงข่ายที่สมบูรณ์ รถรางเชียงใหม่
รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่ โครงการระบบขนส่งมวลชน
รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่ ตั้งแต่เริ่มโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในเชียงใหม่ มีโครงข่ายการขนส่งสาธารณะทางเลือก 2 โครงข่าย คือ โครงข่าย A ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและบนผิวดินที่มีทางวิ่งโดยเฉพาะ และโครงข่าย B ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินและบนผิวดินของ รฟท. ระบบ. สามารถใช้เลนร่วมกับรถคันอื่นได้ รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 สรุปได้ว่า Type A มีความเหมาะสมที่สุดเนื่องจากใช้ทางวิ่งร่วมกันทั้งบนดินและใต้ดิน ช่วยลดแรงกระแทกจากการขับขี่ติดรถบนถนนและไม่รบกวนภูมิทัศน์ชั้นในของเมืองเชียงใหม่ รวม 3 เส้นทางหลักที่สร้างขึ้นพร้อมกัน ดังนั้นการก่อสร้างจะประหยัดมากขึ้น
เส้นทางรฟฟ.รางเบา เชียงใหม่
รฟม. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโครงการ รฟม. เชียงใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัด เชียงใหม่สร้างทางเลือกการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในอดีตซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และลดมลภาวะจากการใช้เชื้อเพลิงและระยะเวลาในการเดินทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงการรถไฟเชียงใหม่ รวม 3 เส้นทาง
- เส้นทางที่ 1 สายสีแดง ช่วงรพ.นครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี รวม 16 สถานี ระยะทาง 15.8 กม.
- เส้นทางที่ 2 สายสีน้ำเงิน ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่ – แยกศรีบัวเงินพัฒนา รวม 13 สถานี ระยะทาง 11 กม.
- เส้นทางที่ 3 สายสีเขียว ช่วง แยกรวมโชคมีชัย – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวม 10 สถานี ระยะทาง 12 กม.
รวมทั้งหมด 39 สถานี ระยะทาง 38.8 กม. กระจายโครงข่ายการเดินทางทั่วจ.เชียงใหม่ โดยเร่งดำเนินการ เส้นทางที่ 1 สายสีแดง ช่วงรพ.นครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ก่อน
เส้นทางที่ 1 สายสีแดง
เส้นทางที่ 1 สายสีแดง ช่วง รพ.นครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี รวม 16 สถานี ระยะทาง 15.8 กม. งบประมาณ 28,726 ลบ. รองเท้า รองเท้า เชื่อมต่อกับสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย จึงต้องเร่งทำเส้นทางนี้ให้เสร็จก่อน
เริ่มทางวิ่ง – โรงพยาบาลนครพิงค์ – ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ – สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี – ศูนย์ประชุมนานาชาติ – สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก – เริ่มทางวิ่งใต้ดินแยกข่วงสิงห์ – มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ – สถานีขนส่งช้างเผือก – เชียงใหม่ราม โรงพยาบาล – โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ – (เจอแยกสายสีน้ำเงิน) – โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ใช้ทางวิ่งนอกสนามบิน) – กรมการขนส่งทางบก – ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี หางดง
รูปแบบทางวิ่ง เป็น 2 แบบ
- ทางวิ่งระดับดิน 9 สถานี ระยะทาง 9.3 กม.จะทำในช่วงนอกเมืองถนนมีขนาดใหญ่ มี 2 ช่วงคือจากต้นทางสถานี โรงพยาบาลนครพิงค์ – สถานีโพธาราม และช่วงสถานีสนามบินเชียงใหม่ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี
- ทางวิ่งใต้ดิน 7 สถานี ระยะทาง 6.5 กม. ตั้งแต่สถานีข่วงสิงห์ – สถานีแยกสนามบินเชียงใหม่
สิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ
- สถานีนครพิงค์ จอดรถยนต์ได้ 1,600 คัน และจอดมอเตอร์ไซค์ได้ 800 คัน
- สถานีแม่เหียะสมานสามัคคี จอดรถยนต์ได้ 1,200 คัน และจอดมอเตอร์ไซค์ได้ 2800 คัน
เส้นทางที่ 2 สายสีน้ำเงิน
เส้นทางที่ 2 สายสีน้ำเงิน ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่-ศรีบัวเงินพัฒนา รวม 13 สถานี ระยะทาง 11 กม.
เริ่มจากทางวิ่งใต้ดิน – สวนสัตว์เชียงใหม่ – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา – มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – แยกตลาดต้นพยอม – โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (เจอแยกสายสีแดง) – วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร – ประตูท่าแพ – โซนตลาดโต้รุ่งเชียงใหม่ (พบแยกสายสีเขียว) – ตลาดสันป่าข่อย – สถานีรถไฟเชียงใหม่ – เริ่มใช้ทางวิ่งใต้ดินแยกหนองประทีป – ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ดอนจั่น – ห้างสรรพสินค้าพรอมมานาด
ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ เพราะต้องการเร่งดำเนินการ ก่อนอื่น ให้ไปที่เส้นสีแดงของเส้นทางที่ 1
เส้นทางที่ 3 สายสีเขียว
เส้นทางที่ 3 สายสีเขียว แยกรวมโชคมีชัย-สนามบินเชียงใหม่ รวม 10 สถานี ห่างออกไป 12 กม.
เริ่มต้นทางวิ่งใต้ดิน – แยกรวมโชค – เริ่มใช้ทางวิ่งใต้ดินที่แยกแม่โจ้ (โรงพยาบาลเทพปัญญา) – ห้างสรรพสินค้าเฟสติวัลเซ็นทรัล – สถานีขนส่งอาเขต – โรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ – โรงเรียนดาราวิทยาลัย – ปรินส์รอยแยลวิทยาลัย – ตลาดวโรรส (กาดหลวง) – เทศบาลนครเชียงใหม่ – บริเวณตลาดโต้รุ่งเชียงใหม่ – โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย – ศาสนา โรงเรียนหทัยวิทยา – โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย – เชียงใหม่แลนด์ – ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – มหาวิทยาลัยฟาร์อีสท์ – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (แยกสายสีแดง)
ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ เพราะต้องการเร่งดำเนินการ ก่อนอื่น ให้ไปที่เส้นสีแดงของเส้นทางที่ 1
เปรียบเทียบความแตกต่าง Tram และ ART
รถรางและ ART ก็ถือเป็นรถไฟฟ้ารางเบาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างดังกล่าวในรายละเอียดอื่นๆ
- รถรางเป็นรถรางเหล็กที่วิ่งบนราง ไปตามถนนจะเป็นทางยกระดับหรือใต้ดินก็ได้ ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างมากเพราะต้องมีโครงสร้างรางสำหรับรถด้วย
- ART (Automated Rapid Transit) เป็นลูกผสมของรถบัสยางและรถรางเหล็ก สามารถยกระดับหรือใต้ดินได้ ดังนั้นจึงไม่มีการสร้างราง รฟท. สามารถขับโดยอัตโนมัติตามรางเสมือนจริงที่วาดบนพื้นผิวถนน คล้ายกับป้ายบอกทาง ดังนั้น งบประมาณในการก่อสร้างประเภทนี้จึงมีไม่มากพอ
จุดเด่น/ด้อย ทางวิ่งบนดินกับใต้ดิน
ข้อดีและข้อเสียของทางวิ่งบนพื้นดิน ระบบยานพาหนะ LRT ทำงานบนพื้นดิน ต้องใช้พื้นที่ติดราง 2 เลน เพื่อให้รถไฟฟ้า 2 ขบวนวิ่งสวนทางกันได้ ดังนั้น บางเส้นทางอาจต้องยกเลิกการจอดริมถนนเนื่องจากพื้นที่ถนนลดลงซึ่งต้องเป็นโปรโมชั่นเพิ่มเติม ชาวเชียงใหม่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ระบบนี้จะยังใช้สัญญาณไฟจราจรเหมือนรถวิ่งบนถนนทั่วๆ ไป จึงจะขับได้ความเร็ว 15-20 กม. ต่อ ชม. การเลือกทางวิ่งบนดินสิ่งสำคัญที่สุดคืองบก่อสร้างไม่ ใหญ่. ใช้เวลาไม่นานในการสร้าง
ข้อดีและข้อเสียของทางวิ่งใต้ดิน
การใช้ทางวิ่งใต้ดินจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมากและใช้เวลาก่อสร้างนานเนื่องจากต้องขุดลึกมากกว่า 10 เมตร และไม่กระทบต่อโบราณสถานที่มีอยู่ทั่วไปในเชียงใหม่ ทางวิ่งใต้ดินมีพื้นที่วิ่งเฉพาะจึงสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 30-35 กม./ชม. ซึ่งเพียงพอที่จะแก้ปัญหาการจราจรในเชียงใหม่ในปัจจุบันได้ และรองรับการพัฒนาไปอีกนานถึง 40 ปี
ผลสรุปกับการพัฒนาโครงข่ายทางเลือก
รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่ จากผลสรุปพบว่าแบบ A เหมาะสมที่สุด เพราะมีรันเวย์ด้านบนและด้านล่างเหมือนกัน ช่วยลดแรงกระแทกจากการขับขี่ติดรถบนถนนและไม่รบกวนภูมิทัศน์ชั้นในของเมืองเชียงใหม่ รวม 3 เส้นทางหลักที่สร้างขึ้นพร้อมกัน ดังนั้นการก่อสร้างจะประหยัดมากขึ้น คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2563 ราคาบัตรจะอยู่ที่ 15-25 บาท
รวมบทความ